Ch 7 UDP

utg

CPE 426 Computer Networks

Chapter 7:

Text Chapter 25: UDP

TOPICS

„

Chapter 25: UDP (User Datagram Protocol)

„

Connectionless and Protocol

„

Communication Semantics and Port Numbers

„

UDP Format and Encapsulation

„

Chapter 26: TCP (Introduction)

Chapter 25: UDP; Datagram

Transport Service

„

ในกรณีที่ Application ต้องการใช้ Service ของ

Connectionless โดยที่ไม่ต้องการ Service ใดๆ

เพิ่มเติม จะสามารถใช้ IP ได้โดยตรง แต่ย ังมีปัญหา

สองประการ

„

Application เป็น Layer 5 แต่ IP เป็น Layer 3 นํามาวางโดยตรง

ไม่ได ้

„

แต่ละ Host อาจจะมีหลาย Application ที่ต ้องการ Service จาก IP

เราต ้องมีการกําหนดหมายเลข Application

„

กล่าวคือ เราต้องการ Layer 4 Protocol บางๆ ไม่ทํา

หน้าที่อะไรมาก แค่เป็นการเชื่อมต่อระหว่าง

Application Layer ก ับ IP Layer และมีการกําหนด

หมายเลข Application

„

หมายเลขที่กําหนด เราเรียก Port Number

„

Protocol นี้คือ User Datagram Protocol (UDP)

Ch. 25: 25.2 Transport Protocol

and End-to-end Communication

„ IP ไม่มี Mechanism ในการแยกแยะระหว่าง

หลายๆ Application ที่ส่งในระด ับ End-to-

end

„ Field ใน IP Header กําหนดแค่ IP Address คือ

หมายเลขของ Host เท่านั้น

„ Host คือ End Point ในมุมมองของ IP

„ เราต้องการ Transport Layer Protocol

„ End Point ของ Transport Protocol คือ Application

„ ดังนั้น End-to-End Protocol ที่แท ้จริงใน TCP/IP จะอยู่

ใน Transport Protocol แยกต่างจาก IP เป็น Layer 4

Ch. 25: 25.3 The User Datagram

Protocol

„

TCP/IP จะมีสอง Transport Protocol

„

User Datagram Protocol(UDP) (Protocol 17; 0x11)

„

ไม่มีความสลับซับซ ้อน และง่าย

„

แต่จะไม่มี Service อะไรมากนักให ้กับผู ้ใช ้

„

Transport Control Protocol(TCP)

„

UDP จ ัดว่าเป็น

„

End-to-end สามารถแยกแต่ละ Application ได ้

„

Connectionless เชื่อมต่อโดยไม่ต ้องทํา Connection

„

Message-Oriented แต่ละข ้อมูลที่ Application ส่งจะถือว่าเป็นหนึ่ง

Message ไม่มีการทํา Segmentation

„

Best-Effort ใช ้ IP ในการส่งโดยไม่มี Mechanism เพิ่มเติม

„

Arbitrary Interaction แต่ละ Application สามารถส่งให ้กับหลาย

และรับได ้จากหลาย Application

„

OS Independent

Ch. 25: 25.4 Connectionless

Paradigm

„ UDP ถือว่าเป็น Thin Protocol Layer

เชื่อมต่อระหว่างหลาย Application โดยการ

ส่งข้อมูลผ่าน IP

„ ใช้ว ิธีการเชื่อมต่อก ับ Network แบบ

Connectionless

„ Application ไม่ต ้องทํา Connection ก่อนจะส่ง

Message และเมื่อส่งจบ ไม่ต ้องบอก Network ในการ

จบการสื่อสาร อยากจะหยุดเมื่อไร ก็หยุดได ้เลย

„ ไม่มีการบันทึก State ของการสื่อสาร

„ ไม่มีการส่ง Control Message

„ ดังนั้นจะมี Overhead ตํ่ามาก

Ch. 25: 25.5 Message Oriented

Interface

„ Application ส่ง Block ของ Data โดยที่ UDP

จะมองว่าเป็นหนึ่ง Message และจะถูกส่งไป

ท ั้ง Message โดยประกอบใน Packet เดียว

ไม่มีการแบ่ง หรือรวม

„ ด ังน ั้นไม่ต้องก ังวลเรื่องการประกอบ Data

กล ับคืนมา หรือหาขอบเขตของข้อมูล

„ แต่ถ ้า Message มีขนาดเล็ก จะมี Overhead จาก

Header ต่างๆสูง

„ กลับกัน ถ ้า Message มีขนาดใหญ่กว่า MTU จะเกิดการ

ทํา Fragmentation ในชั้น IP

„ Fragment อาจจะมีการกระทําตั้งแต่ที่ Host ทําให ้ Efficiency ลดลง

„ ในทางปฎิบัติ ผู ้เขียน Program ควรกําหนดขนาด Message ไม่

เกิน 1400 หรือ 1450 ในการส่งผ่าน Ethernet

Ch. 25: 25.6 UDP

Communication Semantics

„

เนื่องจาก UDP จะใช้ IP โดยไม่มี Service อะไร

เพิ่มเติม ด ังน ั้นม ันจะส่ง Message แบบ Best-Effort เช่นเดียวก ับ IP น่ันหมายถึงว่า Message ที่ส่ง อาจจะ

เกิด (เรียกว่า Communication Semantics)

„

สูญหาย

„

Duplicate

„

Delayed

„

Delivery Out-of-Order

„

Corrupted

„

UDP จะไม่มีการตรวจสอบ หรือพยายามแก้ไขปัญหา

ต่างๆเหล่านี้

„

หมายความว่า ผู้เขียน Application ที่ต้องการใช้ UDP

จะต้องเขียน Mechanism ที่จะจ ัดการก ับสิ่งเหล่านี้เอง

ใน Software ถ้าต้องการ

„

ถ ้าเป็นพวก Real-time Audio อาจจะไม่ต ้องทํา แต่ถ ้าเป็นข ้อมูล

สําคัญ ต ้องทําเอง หรือหันไปใช ้ TCP ซึ่งจะกล่าวในบทหน ้า

Ch. 25: 25.7 Mode of Interaction

and Broadcast Delivery

„ UDP จะยอมให้มีการส่งข้อมูลได้ 4 แบบ

„ 1-to-1

„ 1-to-Many

„ หนึ่ง Application สามารถส่ง Message ให ้หลาย Application

„ UDP ยอมให ้ Application ส่ง Message ผ่าน Multicast หรือ

Broadcast

„ Many-to-1

„ หนึ่ง Application สามารถรับ Message จากหลายผู ้ส่ง

„ Many-to-Many

„ กลุ่มของ Application สามารถแลกเปลี่ยนข ้อมูลกับกลุ่มของ

Application

Ch. 25: 25.8 End Point

Identification with Protocol Port

„

UDP จะต้องเป็น Independent ก ับ Operating System

„

แต่ละ OS กําหนด Application ด ้วย PID(Process ID)

„

แต่ละ OS มีวิธีการกําหนด PID ต่างกัน

„

UDP จะใช ้ PID เป็นตัวกําหนด Application ไปได ้ เพราะแต่ละเครื่องจะใช ้

แตกต่างกัน แม ้ว่าจะเป็น Application เดียวกันก็ตาม

„

UDP จะกําหนด Application ด้วย Port Number ซึ่งจะ Map เข้าก ับ PID ของแต่ละ Host อีกทีหนึ่ง

„

เช่น Echo Service ใช ้ Port 7 หรือ Timeserver Service ใช ้ Port 36

„

Port Number จะ Independent กับ OS ของ Host

„

การสื่อสารกระทําโดย Application จะขอ Service ผ่าน Socket โดยกําหนด Address และ Port Number ให้ก ับ Socket

„

1-to-1 Application กําหนด Local Port, Remote IP Address, Remote Port

„

Many-to-1 Application กําหนด Local Port แต่จะบอก UDP ว่า Message จะมาจากที่ใดก็ได ้ ดังนั้นทุกๆ Message ที่มีปลายทางที่ Port นี้ จะถูกส่ง

มายัง Application นี้

Ch. 25: 25.8 End Point

Identification with Protocol Port

„ UDP Port 16 Bit จาก 0 – 65535

„

กําหนดการใช้งานโดย IANA(Internet Assigned

Numbers Authority, ปัจจุบ ันเป็น Department ของ

ICANN, Internet Corporation for Assigned

Names and Numbers)

„

Internet Assigned Numbers Authority

„

Port 0 Reserved แต่ใช ้ได ้สําหรับเป็น Port ส่งและไม่ต ้องการรับ

„

Port 0 – 1023 สําหรับ Common, Well-Known Service

„

Port 1024 – 49151 เป็น Registered Port สําหรับ Application ที่

ขึ้นทะเบียนไว ้กับ IANA

„

Port 49152 – 65535 เป็น Dynamic Port ที่สามารถนําไปใช ้ได ้

Ch. 25: 25.9 UDP Datagram

Format

„ แต่ละ UDP Message เรียกว่า User

Datagram ซึ่งจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือ

Header ขนาดส ั้นๆ(8 Octet) และ

Payload

„ UDP Message Length จะกําหนดขนาดของ

Message รวม Header เป็น Byte

Ch. 25: 25.10 UDP Checksum และ

Pseudo Header

„ ส่วน Checksum ของ UDP เป็น Option ถ ้าไม่

ใช้จะใส่ศูนย์ สําหร ับ IPv4

„ ถ ้าเป็น IPv6 จะต ้องมี Checksum

„ UDP Header จะไม่มีข้อมูลของ IP Address

เพราะม ันต้องบรรจุใน IP ที่บ่งบอก Address

อยู่แล้ว

„ แต่ถ ้า IP Layer เกิดมีปัญหา ส่ง Message UDP มาผิดที่

ตัว UDP จะไม่สามารถตรวจสอบได ้ว่า Message ตั้งใจจะ

ส่งมาให ้ตัวเองหรือไม่

„ ดังนั้น Header Checksum จะคํานวนไม่ใช่เฉพาะส่วนหัว

ของ UDP แต่จะคํานวนจากส่วนหัวของมันบวกกับข ้อมูล

จาก IP Header ด ้วย เรียก Pseudo Header

Ch. 25: 25.10 UDP Checksum และ

Pseudo Header

„

ด ังน ั้น ถ้ามีการใช้ Checksum ม ันจะคํานวนจากส่วนห ัว

บวกด้วย IP Address, Protocol(Type) และ UDP

Length จาก IP Header (Pseudo Header) และ

Data

„

การคํานวณจะนําแต่ละ 16 Bit Word มาทํา 1’s Complement Sum ผลลัพธ์ที่ได ้จะทํา 1’s Complement อีกทีหนึ่ง ถ ้าผลเป็นศูนย์จะทํา

1’s Complement อีกครั้ง

Pseudo

Header

Pseudo Header สําหร ับ IPv6

„

Next Header = UDP(0x11, 17)

Pseudo

Header

Ch. 25: 25.11 UDP Encapsulation

„ UDP บรรจุใน IP โดยใช้ Protocol เบอร ์

17 (0x11)

การใช้งาน UDP

„ UDP จะใช้กรณีที่ไม่เน้นในเรื่องความเชื่อถือได้ของการส่งข้อมูล

แต่จะเน้นที่ Overhead ตํ่า และความรวดเร็ว

„ DNS (Domain Name Service)

„ DHCP (Dynamic Host Configuration Protocol)

„ SNMP (Simple Network Management Protocol)

„ RIP (Routing Information Protocol)

„ VoIP (Voice over IP)

„ Streaming Media (Real-time Video/Audio)

„ Online Games (MMORPG, Massively multiplayer online role-playing games )

Chapter 26

„ TCP

„ Transport Control Protocol

„ Reliable Protocol for the Internet

„ TCP/IP (TCP over IP)

Chapter 26 TCP: Reliable

Transport Service

„ ในกรณีที่เราต้องการความม ่ันใจในการส่ง

ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ผ่าน IP ที่มีการทํางาน

แบบ Datagram เราต้องใส่ Mechanism

เพื่อให้ความม่ันใจด ังกล่าวลงใน Protocol

ของ Layer 4 (Host-to-Host หรือ

Transport)

„ เราจะต ้องเลือกใช ้ TCP (Transmission Control

Protocol)

„ เรียกรวมๆว่า TCP/IP

„ การใช ้ TCP+IP ทําให ้ผู ้เขียน Application ไม่ต ้องกังวล

เรื่องของการส่งข ้อมูลอีกต่อไป

„ เพียงแต่นําข ้อมูลส่งให ้ พร ้อมกําหนด IP Address และ Port Number จากนั้น ระบบ TCP/IP จะจัดการที่เหลือให ้

„ ผิดกับกรณีที่ใช ้ UDP/IP ในบทที่แล ้ว

„ กล่าวคือ TCP จะให ้ Reliability ในการสื่อสาร

Chapter 26 TCP: 26.3 TCP

Service

„ TCP ให้บร ิการของ 7 ส่วนใหญ่ๆ ด ังนี้

„ Connection Orientation

„ TCP ให ้บริการแบบ Connection-Oriented ซ ึ่ง Application จะต ้องร ้องขอการเชื่อมต่อก่อนที่จะมีการส่งข ้อมูล

„ Point-to-Point Communication

„ แต่ละ Connection ของ TCP จะมีสอง End Points เท่านั้น

(กําหนด Port ต ้นทาง-ปลายทาง และ IP ต ้นทาง-ปลายทาง )

„ Complete Reliability

„ TCP จะ Guarantee ว่าข ้อมูลที่ส่ง จะไปถึงที่หมายได ้อย่าง

ถูกต ้อง สมบูรณ์ และเป็นลําดับ

„ Full Duplex Communication

„ แต่ละ TCP Connection จะยอมให ้ข ้อมูลส่งได ้สองทิศทาง

ตลอดเวลา

Chapter 26 TCP: 26.3 TCP

Service(2)

„ TCP ให้บร ิการของ 7 ส่วนใหญ่ๆ ด ังนี้(ต่อ)

„ Stream Interface

„ Application สามารถส่งข ้อมูลได ้อย่างต่อเนื่อง Octet ต่อ Octet ผ่าน TCP Connection โดย TCP จะไม่มีการรวมกลุ่มของ Data ให ้เป็น Record หรือ Message และจะไม่ Guarantee ว่าแต่ละ

ส่วนของข ้อมูลที่ไปถึงมีขนาดเท่ากับที่ Application ส่งให ้(มีการ

ทํา Segmentation)

„ Reliable Connection Startup

„ TCP ให ้สอง Application สามารถเริ่มต ้นการสื่อสารได ้อย่าง

มั่นใจ

„ Graceful Connection Shutdown

„ ก่อนที่จะจบ Connection นั้น TCP จะให ้ความมั่นใจว่าข ้อมูลได ้

ถูกส่งอย่างครบถ ้วนทั้งสองฝั่ง และทั้งสองฝั่งยินยอมให ้มีการจบ

การเชื่อมต่อ

Chapter 26 TCP: 26.4 End-to-End

Service and Virtual Connection

„ TCP จ ัดว่าเป็น End-to-End Protocol เหมือน

UDP

„ เนื่องจากมันให ้บริการการสื่อสารระหว่าง Application ของสอง Computer

„ แต่ม ันเป็น Connection-Oriented

„ เนื่องจากต ้องมีการทํา Connection ก่อนส่งข ้อมูล

„ และต ้องมีการทํา Disconnection

„ Connection ของ TCP จ ัดว่าเป็น Virtual

Connection

„ เนื่องจากกระทําผ่าน Software เพราะตัว Network (IP) นั้นเป็น Connectionless(Datagram)

Chapter 26 TCP: 26.4 End-to-End

Service and Virtual Connection

„

แต่ละ TCP Message(Segment) จะถูกบรรจุใน IP

Datagram และส่งผ่าน Internet เมื่อถึงปลายทาง IP

จะปลอก Datagram Payload และส่งต่อไปย ัง TCP

„

IP จะมอง TCP เป็นแค่ Data ที่จะต ้องส่ง

„

TCP จะมอง IP เป็นพาหนะสําหรับส่งข ้อมูล ไปยัง TCP อีกฝั่งหนึ่ง

Chapter 26 TCP: 26.5 Transport

Protocol Techniques

„

ปัญหาที่ End-to-End Transport Protocol จะต้อง

เจอ ในการได้มาซึ่ง Reliable Service

„

Unreliable Communication

„

Message อาจจะสูญหาย ซํ้าซ ้อน ผิดพลาด ถูกหน่วงเวลา หรือส่งมา

ไม่เป็นลําดับ (Lost, Duplicated, Corrupted, Delayed, Out of Order)

„

End System Reboot

„

ถ ้า Host เกิด Crash หรือมีการ Reboot ข ้อมูลที่ค ้างอยู่ จะต ้องไม่

สับสนกับ Session ที่ถูกสร ้างขึ้นมาใหม่

„

Heterogeneous End System

„

แต่ละ Host ที่เชื่อมต่อใน Internet มีความสามารถรับ-ส่งข ้อมูลได ้ไม่

เท่ากัน

„

Congestion in the Internet

„

เมื่อมีการส่งข ้อมูลมากเกินไป จะเกิดความคับคั่งภายใน Network ได ้

„

ปกติแล้ว Transport Protocol จะใช้หลายๆวิธีร่วมก ัน

ในการจ ัดการก ับปัญหาเหล่านี้ เราจะกล่าวพื้นฐานแต่

ละอ ันต่อไป

Chapter 26 TCP: 26.5.1 Sequencing to

Handle Duplicates and Out-of-Order

Delivery

„ Transport Protocol จะทํา

Sequencing (กําหนดหมายเลขลําด ับ

ของข้อมูล) ในการจ ัดการก ับปัญหาเรื่อง

Duplicate Data และข้อมูลที่ไปถึงอย่าง

ไม่เป็นลําด ับ

„ คล ้ายกับวิธีที่กระทําใน Layer 2

„ หมายเลขข ้อมูลทําให ้เรารู ้ว่าข ้อมูลนั้นมาซํ้ากัน

หรือไม่

„ ทําให ้รู ้ว่าข ้อมูลมาเป็นลําดับหรือไม่

Chapter 26 TCP: 26.5.2 Retransmission to

Handle Lost Packet

„ ในการจ ัดการก ับ Packet Lost น ั้น Transport Protocol จะใช้ Positive

Acknowledgement ร่วมก ับการ

Retransmission

„ คล ้ายกับ Mechanism ใน Layer 2 เช่นกัน

„ เมื่อ Frame มาถึงอย่างถูกต ้อง จะมีการส่ง ACK

Message กลับไป

„ เมื่อผู ้ส่ง ส่งข ้อมูลแต่ละ Packet จะมีการจับเวลาโดยใช ้

Timer

„ ถ ้า Timer Expire (คือไม่ได ้รับ ACK ในเวลาที่กําหนด) ผู ้ส่งจะ

ทําการ Retransmission ข ้อมูลนั้นไปใหม่

„ ถ ้า Packet มีการ Delay มาก อาจจะทําให ้เกิด

Retransmission ยังผลให ้เกิด Duplicate Packet

Chapter 26 TCP: 26.5.3

Techniques to Avoid Replay

„ ในกรณีที่ Network มี Delay สูง อาจจะทําให้

เกิด ‘Replay Error’ โดยที่ Packet ที่ Delay

น ั้นจะส่งผลต่อการสื่อสารในตอนหล ัง

ยกต ัวอย่าง

„ สองคอมพิวเตอร์ตกลงจะสื่อสารกันเมื่อเวลา 13.00 น.

„ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ส่ง 10 Packet ติดต่อกันไปยัง

ฝั่งตรงข ้าม

„ ปัญหาด ้าน Hardware ทําให ้ Packet 3 ถูก Delay ไป

„ เส ้นทางการส่งข ้อมูลถูกเปลี่ยน เพื่อใช ้เส ้นทางที่ไม่ผ่าน

อุปกรณ์ที่มีปัญหา

„ Protocol ที่คอมพิวเตอร์ต ้นทางส่ง Packet 3 ไปใหม่

จากนั้นส่ง Packet อื่นๆตาม จากนั้นจบการสื่อสาร

Chapter 26 TCP: 26.5.3

Techniques to Avoid Replay

„

สองคอมพิวเตอร์ตกลงจะสื่อสารกันเมื่อเวลา 13.00 น.

„

คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ส่ง 10 Packet ติดต่อกันไปยังฝั่งตรงข ้าม

„

ปัญหาด ้าน Hardware ทําให ้ Packet 3 ถูก Delay ไป

„

เส ้นทางการส่งข ้อมูลถูกเปลี่ยน เพื่อใช ้เส ้นทางที่ไม่ผ่านอุปกรณ์ที่มี

ปัญหา

„

Protocol ที่คอมพิวเตอร์ต ้นทางส่ง Packet 3 ไปใหม่ จากนั้นส่ง

Packet อื่นๆตาม จากนั้นจบการสื่อสาร

„

เวลา 13.05 น. คอมพิวเตอร์ทั้งสองตกลงที่จะสื่อสารกันใหม่

„

หลังจากผู ้ส่งคนเดิม ส่งไปได ้สอง Packet แล ้ว ตัว Packet 3 จาก

การสื่อสารครั้งแรกที่ถูก Delay มาถึงยังผู ้รับ

„

ต่อจากนั้น Packet ที่ 3 จากการสื่อสารครั้งที่สองมาถึงยังผู ้รับ

„

Transport Protocol ต้องออกแบบเพื่อจ ัดการก ับเรื่อง

นี้ มิฉะน ั้นผู้ร ับจะได้ Packet 3 ที่ผิดพลาด ในขณะที่

โยนทิ้ง Packet ที่ถูกต้อง

„

Protocol จะต ้อง Mark แต่ละ Session โดยใช ้ ID ที่เฉพาะ ไม่ซํ้า

กัน โดยการนํา ID กลับมาใช ้ใหม่ต ้องให ้แน่ใจว่าจะไม่เกิด Replay (เวลาต ้องห่างกัน)

Replay (Selective Reject)

0

1

3

4

5

6

7

9

9

2

0

1

?

2

3

Chapter 26 TCP: 26.5.3

Techniques to Avoid Replay

„ Replay ย ังสามารถเก ิดก ับ Control

Packet ได้เช่นก ัน

„ เช่น Connection Closing Packet ถูก Delay

และไปถึงหลังจากมีการทํา Connection ใหม่

ครั้งที่สอง

Chapter 26 TCP: 26.5.4 Flow

Control to Prevent Data Overrun

„ ในการจ ัดการเรื่อง Heterogeneous End

System ที่มีความสามารถไม่เท่าก ัน ต ัว

Transport Protocol จะใช้วิธีการของ Flow

Control เพื่อควบคุม

„ Stop-and-go Protocol มักจะไม่ใช ้ เนื่องจากมี

ประสิทธิภาพตํ่า

„ ปกติจะใช ้ Sliding Window Flowcontrol

„ เช่นเดียวกัน จะคล ้ายกับ Flow Control ใน Layer 2

„ การคํานวณ Efficiency จะคล ้ายกับที่กล่าวมาแล ้วใน Layer 2

„ ให ้ดูใน Slide ก่อนหน ้า หรือดูจาก CPE 326 Course Notes

Chapter 26 TCP: 26.5.4 Flow

Control to Prevent Data Overrun

Chapter 26 TCP: 26.6 Techniques

To Avoid Congestion

„ Congestion เก ิดเมื่อมีข้อมูลที่จะส่งมากเก ิน

กว่าที่ Network จะร ับได้

„ อธิบายได ้โดยใช ้ Queuing Theory

„ Packet จะถูก Delay ไปมาก ในลักษณะ Exponential

„ ถ ้า Queue ล ้น Packet จะสูญหาย

1 Gbps

1 Gbps

1 Gbps

Chapter 26 TCP: 26.6 Techniques

To Avoid Congestion

„

Retransmission เนื่องจาก Queue ล้น จะทําให้เกิด

Congestion Collapse

„

Packet ที่ Retransmit จะถูกโยนทิ้งอีก เพราะ Queue ล ้น

„

Congestion จะต้องตรวจจ ับได้อย่างท ันท่วงที และทํา

การแก้ไข มิฉะน ั้นจะเกิดผลเสียหายต่อท ั้ง Network ซึ่งการตรวจจ ับของ Transport Protocol จะใช้

พื้นฐานจากสองวิธี

„

Intermediate System(Router) จะต ้องแจ ้งไปยังผู ้ส่ง เมื่อมี

Congestion

„

ผู ้ส่งตรวจจับการเกิด Congestion เอง โดยดูจากค่า Delay หรือ

จํานวน Loss ของ Packet

„

ใน Internet จะใช ้วิธีการนี้ เนื่องจาก Delay และ Loss ส่วนใหญ่ (ถ ้า

ไม่ใช่เกิดจาก Hardware Failure) จะเป็นผลมาจาก Congestion

„

การแก ้คือลดการส่งลง ทําได ้โดยการควบคุมที่ Flow Control (ลด

ขนาดของ Window ลง)

Homework

„ ยังไม่มีการบ้านในสัปดาห์นี้

previous page start